ถั่วดาวอินคาคืออะไร มีสรรพคุณอย่างไร มาจากไหน กินยังไง มาดูกัน
เมื่อพูดถึง ” ถั่วดาวอินคา ” หลายคนอาจจะรู้จักกันมาบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีคนอยู่ไม่น้อยที่ยังไม่รู้จักถั่วดาวอินคาว่ามันคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ใช้กินได้หรือไม่ บทความนี้เราจะมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกับถั่วดาวอินคากันมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันเราก็มักจะเห็นว่ามีถั่วดาวอินคาวางขายตามตลาดทั่วไปกันอย่างแพร่หลาย รูปร่างหน้าตาของดาวอินคาอาจจะดูประหลาดและแปลกตามาก แน่นอนอยู่แล้วเพราะว่าพืชชนิดนี้ไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศไทย จึงทำให้หลายคนยังเลสงสัยในถั่วดาวอินคาอยู่แน่นอน

ภาพจาก : wikipedia
มารู้จักถั่วดาวอินคากันเถอะ
ดาวอินคาคืออะไร
- ดาวอินคาเป็นพืชวงศ์ Euphorbiaceae
- ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Plukenetia volubilis L.
- ชื่อสามัญว่า Sacha Inchi , Sacha Peanut , Inca peanut , Sacha mani
- ลักษณะลำต้น เป็นไม้เถาทรงพุ่ม ที่มีความสูง 2 – 3 เมตร มีความต้องการความชื้นและแสงแดดสูงในการเจริญเติบโต
- ผลถั่วดาวอินคา มีขนาด 3 – 5 เซนติเมตร ฝักอ่อนจะเป็นสีเขียว ฝักแก่มีสีน้ำตาลเข้ม ใน 1 ฝักมี 3 – 7 เมล็ด ด้านในคล้ายอัลมอนด์ เมล็ดดิบกินไม่ได้ ต้องอบจนเปลือกจนสุกแล้วถึงสามารถกินได้
การปลูกถั่วดาวอินคา
พืชชนิดนี้ขยายพันธุ์โดยเมล็ด โดยนำเอาเมล็ดแก่มาเพาะในถุงดำ หรือหยอดเมล็ดปลูกในหลุมเลยก็ได้ ควรใช้ปุ๋ยอินทรีย์ในการบำรุง พื้นที่ 1 ไร่สามารถปลูกได้ 200 – 300 ต้น ไม่ชอบพื้นที่น้ำขังชื้นแฉะ การปลูกควรทำค้างให้ลำต้นเลื้อยพันขึ้นไป ปกติสามารถให้ผลผลิต 600 – 800 ก.ก./ไร่ และสามารถให้ผลผลิต 15 – 50 ปีเลยทีเดียว ดาวอินคาสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 7 – 8 เดือนหลังจากการปลูก และหลังจากเก็บเกี่ยวแล้ว หากดูแลรักษาให้ปุ๋ยและน้ำอย่างเต็มที่ ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้อีกหลายครั้งเรื่อยๆ ตลอดทั้งปี
ประโยชน์ของดาวอินคา
นี่เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่สามารถนำทุกส่วนของลำต้นมาใช้ประโยชน์ได้
ยอดและใบ : เราสามารถเอายอดและใบอ่อนของดาวอินคามาทำอาหารได้ อย่างเช่นเอาไปผัดเหมือนผักอื่นๆ หรือเอาใบที่ยังไม่แก่มากมาหั่น แล้วตากแดด 1 – 2 วันให้แห้ง จากนั้นก็เอามาชงดื่มเป็นน้ำชา มีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลและไขมันในเส้นเลือด หรือบางคนก็เอาไปสกัดเป้นน้ำคลอโรฟิลด์
ผลอ่อน : สามารถนำมาทำอาหารได้ โดยการเอามาฝานให้เป็นแผ่นบางๆ แล้วเอามาผัดรวมกับใบและยอดอ่อน หรือแม้แต่เอาไปทำแกงเลียงก็ยังได้
เมล็ดดาวอินคา : เราสามารถเอาเมล็ดแก่ของถั่วดาวอินคามาสกัดน้ำมันได้ ซึ่งน้ำมันที่ได้นี้มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีกรดไขมันโอเมก้า 3 , 6 และ 9 มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน A และ E อุดมไปด้วยไอโอดีน
เมล็ดถั่วดาวอินคามีน้ำมันในประมาณสูง สกัดได้ง่ายๆ ด้วยความเย็นโดยไม่ต้องกลั่น มีกรดไขมันที่จำเป็นในปริมาณเข้มข้น เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพ ที่ร่างกายสามารถย่อยได้ง่าย อุดมไปด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นพืชที่สะดวกต่อการเก็บเกี่ยวเชิงอุตสาหกรรม สามารถผลิตน้ำมันและโปรตีน เพื่อใช้สำหรับการบริโภคและใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางบางอย่าง
สรรพคุณของถั่วดาวอินคา
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ
- ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด
- ช่วยดูแลโรคผิวหนัง ต้อหิน หอบหืด ไมเกรน
- มีสรรพคุณในการลดระดับไตรกลีเซอไรด์ และช่วยป้องกันความดันโลหิตสูง
- รักษาระดับไขมันอิ่มตัวในกระแสเลือด ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและความดันเลือดสูง
- ช่วยลดการอักเสบของหลอดเลือดโรคไขข้อ
- มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ โดยปัจจุบันได้มีการผลิตสบู่ดาวอินคา ซึ่งสกัดจากธรรมชาติ และมีส่วนผสมของน้ำมันถั่วดาวอินคา ช่วยลดสิว ผดผื่น ผิวกระจ่างใส ปกป้องผิวจากอาการคัน ผิวพรรณชุ่มชื้นและระงับกลิ่นกายค่ะ
- ช่วยเรื่องชะลอริ้วรอยและความชรา
- ช่วยลดความดันโลหิตสูง
- ช่วยให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้น ผ่อนคลายความเครียด จิตใจสงบ
- โอเมก้า 3 ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียม ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก
- ช่วยบำรุงสายตา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการมองเห็นให้ดีขึ้น
แหล่งข้อมูล :
นี่คือข้อมูลของถั่วดาวอินคาแบบคร่าวๆ ซึ่งดูแล้วมีประโยชน์หลากหลายมาก และเป็นพืชเศรษฐกินอีกชนิดที่น่าสนใจ ปัจจุบันประเทศไทยก็เริ่มมีการปลูกบ้างแล้วในบางภูมิภาค หากเพื่อนๆ จะปลูกก็ควรจะศึกษาหาข้อมูลและพิจารณาให้รอบคอบด้วยนะ สังเกตุการณ์ดูภาวะทางตลาดให้ดีก่อนจะปลูกในปริมาณมากหรือทำเป็นอาชีพหลัก อาจทดลองปลูกน้อยๆ เพื่อบริโภคเองและศึกษาดาวอินคาไปก่อนก็ได้ค่ะ