วิธีซักรองเท้าผ้าใบ ให้สะอาดน่าใช้ และมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชอบแนวชิลๆ ท่องเที่ยวแบบลุยๆ คงจะมีรองเท้าผ้าใบอยู่ในครอบครองไม่ต่ำกว่า 2 คู่แน่นอน ด้วยเหตุผลที่ว่ารองเท้าผ้าใบสวมใส่สบาย สวมใส่ง่าย และทนทานต่อการผจญภัยต่างๆ บางคนสวมรองเท้าผ้าใบวิ่งออกกำลังกายก็มี (แอดมินก็ด้วย) รองเท้าไม่ว่าจะแบบไหนเมื่อสวมใส่ไปสักพัก ย่อมเกิดความสกปรกขึ้นเป็นธรรมดา เพราะรองเท้าต้องสัมผัสกับพื้นเป็นส่วนใหญ่นี่นา ฉะนั้นการทำความสะอาดบ่อยๆ จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน นี่คือเหตุผลที่ทิปส์ซ่าได้นำเอาวิธีซักรองเท้าผ้าใบมาแชร์กัน คาดว่าต้องเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ หลายคนแน่นอน เพราะหากเราซักไม่ถูกวิธี หรือซักไม่ดีเท่าที่ควร อาจจะทำให้รองเท้าผ้าใบเสียหาย หรืออาจมีกลิ่นอันได้ แล้วเพื่อนๆ จะได้รู้ว่าการซักรองเท้าผ้าใบนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของพวกเราแน่นอน
วิธีซักรองเท้าผ้าใบให้สะอาดเหมือนใหม่
ซักรองเท้าผ้าใบสีขาว ไม่ให้เกิดคราบเหลือง
ให้เพื่อนๆ ไปหาซื้อน้ำยาซักผ้าขาวยี่ห้อใดก็ได้ ที่เรารู้จักกันดีก็น่าจะเป็น ไฮเตอร์ ไฮยีน แวนิช อะไรพวกนี้อะค่ะ หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป เมื่อได้มาแล้วให้เอามาผสมกับน้ำตามอักตราส่วนที่ระบุไว้ข้างขวดเลยนะคะ แล้วเอารองเท้าผ้าใบสีขาวของเราลงไปแช่ไว้ 30 นาที แล้วเอามาซักด้วยน้ำสะอาด ล้างให้เรียบร้อยแล้วก่อนจะเอาไปตาก ให้เอาแป้งฝุ่นมาโรยทับลงไปให้ทั่ว หรืออาจจะใช้กระดาษทิชชู่มาแปะรอบๆ ก็ได้ จะช่วยให้ไม่เกิดคราบเหลืองตามขอบรองเท้าค่ะ
ซักรองเท้าผ้าใบให้สะอาด
ด้านในของรองเท้ามักจะสกปรก ยิ่งเป็นรองเท้าที่ใส่วิ่งด้วยแล้ว กลิ่นตลบอบอวลเกือบทุกคน การซักให้เพื่อนๆ ถอดเอาพื้นรองด้านในออก จากนั้นให้เอาผงซักฟอกมาละลายกับน้ำ ตีเป็นฟองเลยนะคะ แล้วเอาทั้งรองเท้า และรองพื้นที่ถอดออกนั้น ลงไปแช่ทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นให้หาไม้แปรงฟันที่เราไม่ใช้แล้ว เอามาค่อยๆ ขัดทั้งด้านนอก และด้านในของรองเท้าให้ทั่ว ค่อยๆ ขัดให้ละเอียด คราบต่างๆ จะหลุดออกได้ไม่ยาก เพราะเราได้แช่เอาไว้ในน้ำผงซักฟอกแล้วนั่นเอง เมื่อขัดเสร็จให้เอาไปล้างน้ำหลายๆ รอบ อาจจะฉีดน้ำเข้าใส่ด้วยก็ได้ เพื่อช่วยขจัดผงซักฟอกให้หมดจด แล้วเอาไปปั่นแห้ง หรือเอาไปตากเลยก็ได้ ข้อควรระวังก็คือ การตากรองเท้าผ้าใบไว้กลางแดดจัด ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้ขอบยางของรองเท้าเสื่อมได้
ขัดขอบยางรองเท้าให้สะอาด
สำหรับขอบยางของรองเท้านั้น เป็นส่วนที่เปื้อนง่ายมากๆ และหลายคนยังไม่ทราบวิธีการทำความสะอาด เลยปล่อยคราบหรือรอยเหล่านั้นเกาะติดกับรองเท้า ทำให้รัศมีความเก่ามาเยือนรองเท้าของเราได้ง่ายๆ แต่วิธีแก้ก็มีค่ะ ให้เพื่อนๆ เอายาสีฟันยี่ห้ออะไรก็ได้ มาทาให้ทั่วบริเวณขอบยาง ตอนทาให้ถูเบาๆ ไปด้วยนะคะ แล้วเอาแปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้วมาขัดไปรอบๆ ขอบยางได้เลย เมื่อขัดจนทั่วแล้วจึงเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดยาสีฟันออก เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี ขอบรองเท้าจะขาวสะอาดเหมือนใหม่จนคุณต้องประทับใจ
อย่าลืมดูแลเชือกผูกรองเท้าด้วยนะ
เชือกผูกรองเท้าเมื่อเราใช้งานไปนานๆ ก็จะสกปรกเหมือนกัน บางคนเลือกที่จะซื้อเชือกผูกรองเท้ามาสำรองไว้ แต่ส่วนใหญ่จะเอามาซักนี่แหล่ะค่ะ โดยให้คุณเอาไปแช่ในน้ำยาซักผ้าขาวแล้วซักให้สะอาด เมื่อตากจนแห้งแล้ว ให้เอามารีดด้วยเตารีด เพื่อให้เชือกผูกรองเท้าเรียบ สะอาดเหมือนใหม่ เวลาเราเอามาผูกรองเท้าก็ดูเป็นระเบียบสวยงาม
รักษาทรงรองเท้า และลดกลิ่นรองเท้า
หลังจากที่คุณซักรองเท้า เอาไปตากแดดจนแห้งแล้ว ให้เอากระดาษหนังสือพิมพ์มาปั้นเป็นก้อนๆ แล้วเอายัดเข้าไปในพื้นรองเท้าด้านในด้วยนะคะ เพื่อให้หนังสือพิมพ์ช่วยดูดกลิ่นอับของรองเท้า และยังช่วยให้รองเท้าไม่เสียรูปทรงอีกด้วย ดังที่เห็นตามร้านขายรองเท้ามือสอง เค้าจะเอาหนังสือพิมพ์ใส่เข้าไปในรองเท้านั่นเอง
เอารองเท้าออกไปตากแดดซะบ้าง
รองเท้าที่เราสวมอยู่นี้ หากเรายังไม่สะดวกที่จะเอามาซัก ให้เอาออกมาผึ่งแดดซะบ้าง เพื่อขจัดความชื้น และเชื้อโรคที่อยู่ในพื้นรองเท้าด้านใน ไม่ควรเอาไปวางตากไว้บนสังกะสี หรือแผ่นเหล็ก เพราะความร้อนจะทำลายพื้นยางของรองเท้า และการเอารองเท้าออกไปตากแดด ก็ควรตระหนักเรื่องความปลอดภัยด้วยนะ ยิ่งรองเท้าราคาแพงๆ ยิ่งอันตราย เพราะโจรสมัยนี้ขโมยทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่เว้นแม้แต่รองเท้าผ้าใบเก่าๆ กันเลยทีเดียว
ถ้ารองเท้าเปียกอย่าเอามาใส่เด็ดขาด
นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงแยะยำให้มีรองเท้าไว้สำรองอีก 1 คู่ ก็เผื่อว่ารองเท้าคู่ใดคู่หนึ่งเกิดเปียกน้ำนั่นเอง ยิ่งหน้าฝนยิ่งเลี่ยงได้ยาก ที่อยากเตือนเพราะหากเอารองเท้าที่เปียก หรืออับชื้นมาใส่ กลิ่นเท้าของคุณจะบังเกิดและทวีความรุนแรงขึ้นโดยฉับพลัน และเป็นต้นเหตุของกลิ่นเท้าเหม็นเรื้อรังอีกด้วย ฉะนั้นหากรองเท้าเปียกควรรีบเอามาซัก หรือเอาไปตากแดดให้แห้งเสียก่อนนะคะ
ทิปส์ว่าหวังว่าเพื่อนๆ จะได้รับประโยชน์จากวิธีซักรองเท้าผ้าใบในแต่ละข้อไม่มากก็น้อย และสามารถช่วยให้รองเท้าคู่เก่งของคุณมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ดูสะอาดน่าสวมใส่อยู่ตลอดเลยนะคะ เรื่องสุขอนามัยของเท้านี่เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเราต้องใช้เท้าเดินอยู่ทุกวัน ดังนั้นเราก็ต้องดูแลรองเท้าที่เราใช้สวมอยู่ทุกวันด้วยนั่นเอง