15 วิธีดับกลิ่นตู้เสื้อผ้า เคล็ดลับง่ายๆ ที่ใช้เพียงสิ่งของใกล้ตัว
ตู้เสื้อผ้าเป็นอีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญที่เรามีกันทุกบ้าน เพื่อใช้เก็บเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มทั้งหมดทั้งมวลของเรา ให้ปลอดภัยจากหนู แมลงต่างๆ ช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตลอดไปจนถึงการป้องกันฝุ่นไม่ให้มาเกาะเสื้อผ้าของเรา แต่บางทีตู้เก็บเสื้อผ้าก็มีกลิ่นอับ กลิ่นสี หรือกลิ่นไม้อัดของตู้ที่ซื้อมาใหม่ ทำให้มีกลิ่นติดเสื้อผ้าของเรา จนเอามาสวมใส่แทบไม่ได้ หากเอามาใส่ก็จะทำให้กลายเป็นกลิ่นตัวไปโดยปริยาย ซึ่งคงไม่มีใครอยากจะเอามาสวมใส่เป็นแน่ ดังนั้นวิธีดับกลิ่นตู้เสื้อผ้าจึงเป็นเรื่องที่หลายคนอยากทราบกันแน่นอน
ถ้าเสื้อผ้าเหม็นอับหมดทั้งตู้จนเอามาใส่ไม่ได้ เราก็จำเป็นต้องนำไปซักกันอยู่ดี และเพื่อป้องกันไม่ให้ตู้เสื้อผ้ามีกลิ่นอีก เราจะต้องมาดับกลิ่นตู้เสื้อผ้ากันแล้วหล่ะ ด้วยเหตุนี้ทิปส์ซ่าจึงได้รวบรวมเอาวิธีดับกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้ามาไว้เป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆ ผู้สนใจกันที่นี่ เพื่อจะได้อ่านและนำไปใช้แก้ปัญหากลิ่นตู้เสื้อผ้าที่บ้านของตนเอง แล้วเสื้อผ้าที่เราซักมาหอมๆ เมื่อนำมาเก็บไว้ในตู้แล้ว ก็จะมีกลิ่นหอมพร้อมนำไปสวมใส่ได้อย่างมั่นใจทุกเวลาค่ะ
วิธีดับกลิ่นตู้เสื้อผ้า ขจัดกลิ่นอับได้อย่างตรงจุด
เบกกิ้งโซดาขจัดกลิ่นตู้เสื้อผ้า
วิธีทำคือให้เอาเบกกิ้งโซดาใส่จานหรือกระป๋องไปวางไว้ตามชั้นต่างๆ ของตู้เสื้อผ้า และต้องระวังจุดที่วางนิดนึง เวลาเปิดเอาเสื้อผ้าอย่าเผลอไปโดนจนจานใส่เบกกิ้งโซดาคว่ำกระจายหล่ะ เอาวางไว้ในจุดที่ไกลมือนิดนึง ซึ่งเบกกิ้งโซดาก็จะช่วยกำจัดกลิ่นในตู้เสื้อผ้าได้ และเมื่อผ่านไปสักระยะเราก็ควรเปลี่ยนเอาเบกกิ้งโซดาใหม่เข้าไปใส่แทนของเดิมด้วยหล่ะ
ใช้กากกาแฟดับกลิ่น
นอกจากเราจะใช้กากกาแฟขัดผิวให้เนียนนุ่มแล้ว เรายังเอามาช่วยขจัดกลิ่นในตู้เสื้อผ้าได้ โดยเอากากกาแฟใส่ชามแล้วนำไปวางไว้ในตู้เสื้อผ้า จากนั้นปิดประตูตู้ทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วเอาออกไปทิ้งในตอนเช้า ก็จะช่วยกำจัดกลิ่นได้เป็นอย่างดีเลยหล่ะค่ะ
ขจัดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าด้วยน้ำส้มสายชู
วิธีนี้เพียงแค่เอาเสื้อผ้าออกจากตู้ให้หมดก่อน จากนั้นเอาน้ำส้มสายชูเทใส่ชามแล้วเอาไปวางไว้ในตู้เสื้อผ้า แล้วปิดประตูตู้ทิ้งไว้ 1 คืน หรือจะเอาน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำสะอาดในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 เอาใส่ขวดสเปรย์แล้วนำไปฉีดพ่นในตู้เสื้อผ้าให้ทั่ว หรืออีกวิธีก็เอาน้ำส้มสายชูกับน้ำอุ่นผสมกันในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 จากนั้นเอาผ้ามาชุบแล้วนำไปเช็ดผนังด้านในของตู้เสื้อผ้า วิธีเหล่านี้ก็สามารถช่วยดับกลิ่นในตู้เสื้อผ้าให้กับเราได้
ใช้กล่องสบู่ช่วยดับกลิ่น
สบู่ที่เราซื้อมาใหม่เมื่อแกะกล่องเอาอย่าเพิ่งเอาทิ้ง กล่องสบู่ยังมีกลิ่นหอมติดอยู่ ให้เอาไปใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้า ก็จะช่วยดับกลิ่นและช่วยให้ตู้เสื้อผ้าและเสื้อผ้าที่เราเก็บไว้ข้างในมีกลิ่นหอม
ใช้ถ่านช่วยดูดกลิ่น
ถ่านก้อนสีดำๆ ที่เราซื้อมาก่อไฟเนี่ย เป็นที่รู้กันดีกว่าช่วยดูดกลิ่นได้ดีมาก และเรายังใช้ดูดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ในตู้เสื้อผ้าได้ โดยเอาถ่านมาใส่จานหรือห่อด้วยถุงผ้าบางๆ แล้วเอาไปวางไว้ในตู้เสื้อผ้า กลิ่นเหม็นอับในตู้เสื้อผ้าก็จะหมดไป แต่เราต้องระวังอย่าให้ถ่านไปเปื้อนเสื้อผ้าหล่ะ ยิ่งถ้าเป็นเสื้อขาวนี่ต้องวางถ่านไว้ให้ห่างหน่อยนะ
น้ำมะนาวช่วยเราได้
นอกจากเราจะใช้มะนาวรักษาสิวหรือปรุงรสอาหารให้มีรสเปรี้ยวสะใจแล้ว เรายังเอามาช่วยขจัดกลิ่นตู้เสื้อผ้าได้ด้วย โดยเอาน้ำมะนาวมาผสมกับน้ำอุ่น จากนั้นเอาผ้ามาจุ่มลงไปแล้วนำไปเช็ดด้านในของตู้เสื้อผ้า จากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งสนิทแล้วจึงค่อยเอาเสื้อผ้าเข้าไปเก็บในตู้ตามปกติ หรืออีกวิธีคือเอาก้อนสำลีชุบน้ำมะนาว แล้ววางบนจานรอง จากนั้นเอาไปไว้ในตู้เสื้อผ้า ก็สามารถช่วยแก้กลิ่นตู้เสื้อผ้าได้เช่นกันจ้า
ถุงน้ำยาปรับผ้านุ่มอย่าเพิ่งทิ้ง
ตอนที่เราซักผ้าก็ย่อมต้องใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มด้วย ซึ่งก็จะมีกลิ่นหอมตามที่เราเลือกซื้อมา แต่เมื่อเราใช้หมดแล้วถุงของน้ำยาปรับผ้านุ่มอย่าเพิ่งทิ้งนะ ให้เอามาวางไว้ในตู้เสื้อผ้าเพื่อช่วยขจัดกลิ่นอับ และยังช่วยให้มีกลิ่นหอมติดในตู้เสื้อผ้าของเราอีกด้วยหล่ะ หรืออีกวิธีคือเอากล่องอาหารหรือกล่องไอติมที่เรากินหมดแล้วมาล้างให้สะอาด เอาน้ำยาปรับผ้านุ่มเทใส่ลงไปนิดนึง ปิดฝาแล้วเจาะรูเล็กๆ ด้านบน นำไปวางไว้ในตู้เสื้อผ้าก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้ตู้เสื้อผ้าหอมได้
กลิ่นเหม็นอับอาจมาจากเสื้อผ้า
ในช่วงหน้าฝนที่ความชื้นมีมากทำให้ผ้าแห้งช้า หรือบางทีผ้ายังไม่แห้งสนิทหรือผ้าไม่ค่อยได้แดดอย่างเพียงพอ แล้วเราเอามาเก็บไว้ในตู้ ผ้าที่ยังมีความชื้นอยู่นี่แหล่ะที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่น ฉะนั้นผ้าที่เราซักตากไว้ต้องมั่นใจว่าแห้งเป็นอย่างดีแล้วจึงจะเอามาเก็บไว้ในตู้ค่ะ
เอาสบู่ก้อนวางในตู้เสื้อผ้า
โดยทั่วไปแล้วสบู่จะมีกลิ่นหอมสดชื่นใช่มั๊ยหล่ะ เราก็เอามาใส่ไว้ในตู้กันซะเลย โดยเอาสบู่ก้อนกลิ่นที่เราชอบมาวางไว้ในตู้เสื้อผ้า กลิ่นหอมของสบู่จะกระจายไปทั่วทั้งตู้ ช่วยขจัดกลิ่นเหม็นได้ และยังช่วยให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของสบู่อีกด้วย
กลิ่นจากถุงเท้า รองเท้าก็มีส่วน
บางทีถ้าเราไปอยู่หอพัก ห้องเช่า หรืออพาร์ทเม้นท์ การจะถอดรองเท้าไว้หน้าห้องก็คงจะดูไม่ปลอดภัยเพราะวันดีคืนดีมันอาจจะหายได้ จึงจำเป็นจะต้องเอามาเก็บไว้ในห้อง กลิ่นเหม็นอับของถุงเท้า รองเท้าจึงอบอวลอยู่ในห้องและกระจายเข้าไปติดค้างอยู่ในตู้เสื้อผ้า จนทำให้เกิดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้านั่นเอง ฉะนั้นควรจัดเก็บรองเท้าไว้ระเบียงด้านหลังห้องและดูแลรักษาความสะอาดของรองเท้าให้ดีอย่าให้มีกลิ่น ส่วนถุงเท้าที่สวมแล้วก็เอาใส่ตะกร้าไว้ด้านหลังห้องด้านเพื่อป้องกันกลิ่น และหมั่นซักทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
ใช้วอดก้าผสมน้ำเปล่ามาพ่น
วิธีทำคือเอาวอดก้ากับน้ำเปล่ามาผสมกันในอัตรา 1 ต่อ 1 เอาใส่ขวดสเปรย์แล้วเขย่าให้เข้ากัน จากนั้นขนเอาเสื้อผ้าออกจากตู้ก่อน แล้วเอาส่วนผสมที่เตรียมไว้มาฉีดพ่นภายในตู้จนทั่ว ไม่ต้องปิดประตูตู้นะค่ะเปิดทิ้งไว้ให้อากาศได้ระบาย ปล่อยทิ้งไว้สักพักจึงเอาเสื้อผ้าเข้ามาเก็บไว้เหมือนเดิม
แขวนถุงบุหงาไว้ในตู้
เราสามารถหาซื้อถุงบุหงา(ถุงดอกไม้หอม)ได้ตามตลาดนัดทั่วไป เมื่อได้มาแล้วก็เอามาแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้า หรือจะหาซื้อผลิตภัณฑ์ดับกลิ่น ถุงหอมต่างๆ มาแขวนไว้ในตู้เสื้อผ้า ก็จะช่วยขจัดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าได้ แต่เราต้องเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งเมื่อหมดอายุ มิฉะนั้นกลิ่นอับที่สะสมอยู่ในเครื่องหอมเหล่านี้ก็อาจจะมาติดที่เสื้อผ้าแทนได้
ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดให้สะอาด
ก่อนอื่นเราต้องเอาเสื้อผ้าออกมาจากตู้ให้หมด แล้วใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ มาเช็ดบริเวณภายในตู้ให้ทั่วทุกซอกทุกมุม และปิดตู้ทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง โดยต้องเปิดประตูหน้าต่างบ้านด้วยเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก และอาจจะเอาพัดลมมาเป่าด้วยก็ได้ เพื่อช่วยไล่ความชื้นออกไปได้ดียิ่งขึ้น
ใช้แผ่นขนมปัง + น้ำส้มสายชู
วิธีนี้ก่อนอื่นให้หาจานมา 1 ใบและเอาแผ่นขนมปังวางลงไป จากนั้นเทน้ำส้มสายชูลงไปในจานนั้น แล้วเอาไปวางไว้ในตู้เสื้อผ้า ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมงก็เอาออกไปทิ้ง หากพบว่ายังมีกลิ่นในตู้เสื้อผ้าอยู่ก็ให้ทำซ้ำอีกรอบค่ะ
ให้ทรายแมวช่วยดับกลิ่น
คนที่เลี้ยงแมวคงจะรู้จักทรายแมวกันเป็นอย่างดี เพราะช่วยกําจัดกลิ่นฉี่แมวได้เป็นอย่างดี โดยเราก็เอาทรายแมวใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้ใช้ใส่ถ้วยแล้วเอาไปวางไว้ในตู้เสื้อผ้า ก็จะช่วยดูดกลิ่นอับออกไปค่ะ
ไม่ได้ยากเกินไปเลยใช่มั๊ยหล่ะสำหรับวิธีดับกลิ่นตู้เสื้อผ้าทั้งหมด 15 วิธีที่เราได้นำมาฝากกันในบทความนี้ เมื่อได้อ่านแล้วนำไปใช้ก็คงจะเกิดประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย ที่สำคัญหากผ้ายังไม่แห้งดีอย่าเพิ่งเอามาเก็บไว้ในตู้ ควรผึ่งให้แห้งดีเสียก่อน จะได้ไม่เกิดกลิ่นอับ แล้วคุณก็จะหมดปัญหาเกี่ยวกับกลิ่นในตู้เสื้อผ้าแน่นอน