วิธีลดรอยดําจากสิว และวิธีรักษารอยดําจากสิว ที่คุณจะต้องประทับใจ

Click to rate this post!
[Total: 2 Average: 3]

วัยรุ่นทั้งหลายใครที่กำลังถูกคุกคามจากรอยด่างดำ  ซึ่งเกิดจากสิวที่ได้ทิ้งร่องรอยอันไม่น่าจดจำเอาไว้  วันนี้เรามีเคล็ดลับดีดี ซึ่งเป็นวิธีลดรอยดําจากสิวเด็ดๆ ที่จะทำให้ใบหน้าของคุณสวยใสไร้รอยดำจากสิวคะ  แต่ละวิธีนั้นบอกได้เลยว่าไม่อยาก คุณก็สามารถทำได้ที่บ้านของคุณเองค่ะ


Advertisements


เพื่อให้ใบหน้าของคุณสวยสดใส ลองมาอ่านดูวิธีลดรอยดําจากสิวกันเลยดีกว่า เพื่อที่เราจะได้อวดผิวหน้าของเราได้อย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาสังเกตุเห็นจุดด่างดำบนผิวหน้าของเรา มาขจัดปัญหารอยดำจากสิวไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่าจ้า

วิธีลดรอยดําจากสิว,วิธีรักษารอยดําจากสิว,วิธีแก้รอยดําจากสิว,รอยดำจากสิว,รักษารอยดำจากสิว

วิธีรักษารอยดําจากสิวทำได้ไม่ยาก เรามีข้อมูลดีดีมาฝาก

 

พอกหน้าด้วยมะละกอสุก

ผลไม้บ้านๆ ที่เราต่างรู้จักกันดี  นั่นก็คือ “มะละกอ” ซึ่งเพื่อนๆ อาจไม่รู้มาก่อน  ว่าเนื้อของมะละกอสุกเนี่ยสามารถช่วยในเรื่องของรอยดำจากสิวได้ด้วยนะคะ  เพียงแค่คุณนำเอาเนื้อมะละกอสุกมาบดให้ละเอียด  จากนั้นก็เอามาพอกหน้าทิ้งไว้ 15 นาที  ทำเป็นประจำทุกวันจะช่วยรักษารอยดำจากสิวบนใบหน้าของเพื่อนๆ ได้ โดยรอยดำจากสิวจะค่อยๆ จางลงคะ

 

 

วิธีลดรอยดําจากสิว ด้วยครีม Hiruscar Postacne

ลองไปหาซื้อครีม Hiruscar Postacne จากร้านจำหน่ายเครื่องสำอางค์มาใช้กันดูนะคะ  เป็นครีมที่วึมวับเข้าผิวหนังได้เร็ว  และสามารถช่วยลดรอยดำจากสิว ทำให้รอยดูจางลงและผิวของเราจะนุ่มขึ้นอีกด้วยนะคะ  ครีมยี่ห้อนี้เป็นที่นิยมกันมากในหมู่สาวๆ ลองไปหาซื้อมาใช้กันดูนะคะ

 

 

หอมแดงก็ช่วยแก้รอยดําจากสิวได้นะ

หอมแดงที่อยู่ในครัวของเรา  ก็เอามาใช้ลด และรักษารอยดําจากสิวได้  วิธีการก็คือให้นำเอาหอมแดงมาฝานเป็นแผ่นบางๆ แล้วเอามาแปะตรงที่มีรอยดำจากสิวบนใบหน้าดูนะคะ  ทิ้งไว้ 10 นาทีต่อครั้งก็พอ  ทำเป็นประจำทุกวันจะช่วยให้รอยดำจากสิวค่อยๆ จางลง  วิธีนี้ควรระวังเรื่องกลิ่นนิดนึงนะคะ  ก่อนนอนก็ให้ล้างหน้าจนสะอาดปลอดกลิ่นด้วยจ้า

 

 

พอกหน้ากด้วยมะเขือเทศปั่น

คุณประโยชน์ของมะเขือเทศที่มีต่อผิวนั้น เราต่างรู้ดีกันอยู่แล้วว่ามีมากมาย รวมไปถึงช่วยให้รอยดำจากสิวดูจางลงด้วย วิธีการคือเพียงแค่เพื่อนๆ เอามะเขือเทศมาล้างให้สะอาด แล้วเอาลงปั่นในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ได้เลย เมื่อละเอียดดีแล้วก็เอามาพอกหน้าของเราทิ้งไว้ 20 นาทีต่อครั้ง ให้ทำวันเว้นวันก็พอแล้วคะ เพียงไม่นานคุณจะค่อยๆ เห็นผลลัพธ์ที่น่าประทับใจ

 

 

วิธีแก้รอยดําจากสิวด้วยครีม Scagel

ใครที่มีผิวค่อนข้างแห้ง  ให้ใช้ครีมยี่ห้อนี้เลยจ้า  ครีมที่ชื่อ Scagel เนี่ยจะเป็นครีมสมุนไพรที่ใช้ได้ผลดีเลยทีเดียว  แต่อาจจะซึมเข้าผิวหน้าได้ช้านิดนึงนะคะ  แต่ความสามารถในการรักษารอยดำจากสิวนี่เรียกได้ว่าไม่แพ้ครีมรักษาจุดด่างดำยี่ห้ออื่นเลยหล่ะ

 

 

วิธีรักษารอยดําจากสิวด้วยมะนาว

วิธีนี้อาจจะทำให้เราแสบนิดนึงนะคะ  คือให้เอามะนาวมาฝานเป็นแผ่นบางๆ แล้วเอามาแปะตรงบริเวณที่มีจุดด่างดำได้เลย  แปะทิ้งไว้เพียง 20 นาทีก็พอแล้วคะ  เพราะฤทธิ์ของน้ำมะนาวนั้นค่อนข้างกัดกร่อนรุนแรง  ใครที่มีผิวบอบบางก็ให้ลดเวลาลงอีกก็ได้นะคะ

 

 

วิธีแก้รอยดําจากสิวด้วยว่านหางจระเข้

ประโยชน์ของว่านหางจรเข้  นอกจากจะช่วยลดความแสบร้อนจากแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกแล้ว ยังสามารถช่วยให้รอยดำจากสิวดูจางลงได้นะ  ให้แกะเอาวุ้นที่อยู่ในว่านหางจรเข้มาบดให้ละเอียด  โดยการเอาใส่ในถุงพลาสติกแล้วขยำคะ  เมื่อเห็นว่าเนื้อว่านหางจรเข้ละเอียดด๊แล้ว ให้เอามาพอกใบหน้าของเราให้ทั่ว ทิ้งไว้ให้แห้ง  แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดคะ  หรืออาจจะหาสบู่หอมๆ มาล้างด้วยก็ได้  เพราะกลิ่นของว่านห่างจรเข้ค่อนข้างแรงนิดนึง

 

 

ครีม Clinascar gel ช่วยคุณได้

ครีมลดรอยสิวยี่ห้อนี้  จะเพิ่มความนุ่มชุ่มชื้นให้กับผิวของคุณ  กลิ่นหอมมากๆ เลย และยังมีคุณสมบัติช่วยลดรอยดำจากสิวได้เป็นอย่างดีเลยหล่ะ  ลองหาซื้อมาใช้แต้มตรงจุดด่างดำกันดูนะจ๊ะ

 

 

ใบบัวบก ช่วยลดรอยดำจากสิว

สมุนไพรที่ช่วยแก้ร้อนในอย่างใบบัวบก  ยังสามารถทำให้รอยดำจากสิวดูจางลงได้ด้วยนะคะ  ให้เพื่อนๆ เอาใบบัวบกมาล้างให้สะอาด  จากนั้นก็เอามาปั่นให้ละเอียด  แล้วนำมาพอกหน้าของเราทิ้งไว้ 20 นาที ค่อยล้างออกด้วยสบู่ หรือโฟมล้างหน้าตามปกติได้เลยจ้า  รอยดำจากสิวจะค่อยๆ จางลง และใบหน้ายังมีความเนียนนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย

 

 

Mederma ครีมรักษารอยดำจากสิวที่อยากแนะนำ

ด้วยคุณสมบัติของครีมชนิดนี้  ที่สามารถซึมซับเข้าสู่ผิวหนังอย่างรวดเร็ว  ทำให้มีประสิทธิภาพในการรักษารอยดำจากสิว เห็นผลได้อย่างชัดเจนและค่อนข้างไว  ช่วยลดเลือนจุดด่างดำจากสิว และแก้ปัญหาเรื่องของรอยแผลเป็น ได้อีกด้วย

 

เพื่อนๆ ที่ได้นำเอาวิธีรักษารอยดําจากสิววิธีต่างๆ เหล่านี้ไปใช้แล้วได้ผล  ก็ช่วยกลับมารีวิวให้เพื่อนๆ ของเราได้ทราบกันด้วยนะคะ  ซึ่งวิธีเหล่านี้ผู้เขียนได้ศึกษามาจากคนรอบข้าง และประสบการณ์จริงบางส่วนที่เคยได้ลองใช้ดูคะ  แต่ละวิธีก็ได้ผลที่แตกต่างกัน  ทั้งนี้ทั้งนั้นคงจะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยนั่นเอง


Advertisements