วิธีล้างเครื่องเงินแบบง่ายๆ ให้เครื่องเงินสะอาดใส เหมือนใหม่
สำหรับผู้ที่นิยมเครื่องเงิน คงอยากจะรักษาความสะอาดเงาวับให้กับเครื่องเงินของคุณตลอดไป แต่ธรรมชาติของเครื่องเงิน เมื่อนานๆ ไปมักจะมีรอยดำ หรือคราบหมองที่ทำให้ความเงาใสลดน้อยลงไป ยิ่งเป็นภาชนะต่างๆ ที่คุณใช้งานอยู่บ่อยๆ ย่อมจะเก่าเร็วอย่างแน่นอน แต่คุณไม่ต้องห่วง เพราะวิธีล้างเครื่องเงินนั้นมีเยอะมากๆ เพราะการใช้เครื่องเงินเป็นเครื่องประดับตกแต่ง และภาชนะเครื่องใช้ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ย่อมมีวิธีต่างๆ ที่ได้ถูกคิดค้นขึ้นมา และใช้สืบทอดกันมาถึงปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากการที่มีเครื่องเงินเป็นมรดกตกทอดในครอบครัวต่างๆ นั่นเอง

รวมสูตรการล้างเครื่องเงินแบบง่ายๆ ที่ได้ผลดี
ล้างเครื่องเงินด้วยน้ำมะนาว ผสมน้ำนม
ให้เอาน้ำมะนาวมา 1 ช้อนชโต๊ะ ผสมกับนม 1 แก้ว จากนั้นคนให้เข้ากันแล้วรอ 5 นาที จึงนำเอาเครื่องประดับที่เป็นเครื่องเงินของคุณใส่ลงไป แช่ทิ้งไว้ 1 คืน ตอนเช้าจึงนำมาล้างออกด้วยน้ำสะอาด และเช็ดให้แห้ง จะช่วยคืนความเงางามให้กับเครื่องประดับของคุณอีกครั้ง
วิธีล้างเครื่องเงินด้วยเบคกิ้งโซดา
กลับมาอีกแล้วกับคุณประโยชน์ของเบคกิ้งโซดา วันนี้เราจะเอามาล้างเครื่องเงินของเราให้สะอาดเงาวับเลยหล่ะ วิธีการก็คือให้เอากระดาษฟอยล์รองพื้นกาละมัง แล้วใส่น้ำอุ่นลงไป เติมเบคกิ้งโซดาแล้วคนให้ละลาย จากนั้นเอาเครื่องเงินของเราลงไปแช่ได้เลย เมื่อเห็นว่าคราบต่างๆ หลุดออกจนหมดแล้ว จึงเอามาล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วเช็ดด้วยผ้าแห้ง
ใช้น้ำสบู่ก็ได้นะ
ให้คุณเอาสบู่ก้อนยี่ห้ออะไรก็ได้ มาละลายกับน้ำ แล้วให้เอาน้ำที่ได้ ไปต้มให้เดือดแล้วปิดไฟ รอให้อุณหภูมิของน้ำสบู่ลดความร้อนลงมานิดหน่อย แล้วเอาเครื่องประดับเงิน หรือภาชนะเงินลงไปแช่ได้เลย รอ 5 นาทีค่อยเอาออกมาล้างด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ แล้วเช็ดให้แห้ง เครื่องเงินจะกลับมาใสแวววาวเหมือนใหม่อีกครั้ง
ล้างคราบดำออกจากเครื่องเงินด้วยเกลือ
เอากระดาษฟอยล์ แบบที่เราใช้ห่ออาหารนั่นแหล่ะ มารองไว้ที่พื้นกาละมังให้ทั่ว แล้วเอาน้ำสะอาดเติมลงไปจนเกือบเต็ม แล้วใส่เกลือตามลงไป คนให้เม็ดเกลือละลาย แล้วจุ่มเครื่องเงินของคุณลงไปได้เลย ทิ้งไว้ซักครู่คุณจะสังเกตุเห็นคราบดำๆ เหล่านั้นหลุดไปติดอยู่ที่กระดาษฟอยล์ทั้งหมด ให้เรารอจนเครื่องเงินเหล่านั้นสะอาดมากที่สุด จึงค่อยเอาออกมาเช็ดด้วยผ้าแห้ง
การล้างเครื่องเงิน ด้วยยาสีฟัน
ให้คุณเอายาสีฟันมาบีบใส่บนผ้าสะอาด แล้วนำมาเช็ดเครื่องเงินของคุณให้ทั่ว พอกทิ้งไว้ 30 นาที จึงเช็ดยาสีฟันออกให้หมด แล้วเอาไปล้างด้วยน้ำอุ่นที่ผสมน้ำยาล้างจานอีกรอบ เสร็จแล้วก็เอาผ้านุ่มๆ มาเช็ดให้แห้ง เครื่องเงินจะวาววับเลยหล่ะ
น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก
เพียงแค่คุณเอาน้ำมะขามเปียก หรือว่าน้ำมะนาวก็ได้ มาใส่ไว้ในถ้วย แล้วเอาเครื่องเงินลงไปแช่ไว้ แล้วสังเกตุดูเป็นระยะๆ ว่าคราบต่างๆ ได้หลุดออกไป และความเงางามมีมากจนเราพอใจหรือยัง ถ้าพอแล้วก็เอาออกมาล้างน้ำแล้วเช็ดให้แห้ง
ลิปสติกขัดเครื่องเงิน
ใช้ลิปมันมาทาบนกระดาษทิชชู่ แล้วเอาไปขัดเครื่องเงินของคุณที่ต้องการ ค่อยๆ ขัดไปเรื่อยๆ จนคราบและรอยหมองคล้ำต่างๆ หมดไป และเช็ดคราบลิปสติกออกให้หมด เครื่องเงินก็จะกลับมาเงางามอีกครั้ง
ใช้น้ำยาล้างเครื่องเงิน
เพียงแค่คุณไปที่ร้านขายเครื่องเงิน แล้วจะเห็นน้ำยาล้างเครื่องเงินวางขายอยู่ด้วย ให้คุณซื้อมาใช้เลย ขวดละร้อยกว่าบาท หรืออาจจะไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้คุณพึงพอใจ
ล้างเครื่องเงินด้วยซันไลต์
แค่เอาน้ำสะอาดไปต้ม แล้วใส่ซันไลต์ลงไปเล็กน้อย จากนั้นเอาเครื่องประดับที่เป็นเงินของคุณ ลงไปต้มได้เลย เพียงแป๊บเดียวคราบต่างๆ จะหลุดออกไปจนหมด อย่าต้มไว้นานนะคะ เพียงไม่กี่นาทีก็พอแล้วหล่ะค่ะ
ผงซักฟอกกับน้ำอุ่น
เพียงใช้น้ำอุ่นมาผสมกับผงซักฟอกยี่ห้ออะไรก็ได้ แล้วเอามาขัดเครื่องเงิน โดยใช้แปรงสีฟันขัดออก เครื่องเงินของคุณก็จะใสวาววับในพริบตา
สารส้มก็ใช้ได้
ให้ต้มน้ำให้ร้อน แล้วเอาสารส้มใส่ลงไปเล็กน้อย จากนั้นเอาเครื่องประดับเงินของคุณใส่ลงไปต้มได้เลย รับรองว่าเครื่องเงินขาวสะอาดใสได้เลย
วิธีล้างเครื่องเงินด้วยดอกกระเจี๊ยบ
ลองไปเอาดอกกระเจี๊ยบมาต้มเหมือนกับเราจะทำน้ำกระเจี๊ยบนั่นแหล่ะค่ะ แต่ไม่ต้องใส่น้ำตาลนะคะ ต้มดอกกระเจี๊ยบเพียวๆ เลย จากนั้นเอาเครื่องเงินของคุณลงไปต้มด้วยซักพัก ก็เอาออกมา เครื่องเงินก็จะสะอาดเหมือนใหม่
วิธีล้างเครื่องเงินด้วยมะกรูดและแชมพู
เพียงคุณเอาแชมพูยี่ห้ออะไรก็ได้ มาผสมกับน้ำมะกรูด เติมน้ำสะอาดลงไปด้วยนิดนึง แล้วเอาเครื่องเงินลงไปแช่ได้เลย แช่ไว้ประมาณ 5 – 10 นาที คราบต่างๆ จะหลุดออกจนหมด จากนั้นจึงใช้ผ้าแห้งเช็ดออกให้สะอาด
เห็นมั๊ยค่ะเพื่อนๆ ว่าวิธีล้างเครื่องเงินนั้นเราสามารถทำได้ไม่ยากเลย และใช้สิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเรามากๆ อีกด้วย ถ้าที่บ้านของคุณมีเครื่องใช้ที่ทำจากเงิน หรือเครื่องประดับที่ทำจากเงิน ก็สามารถนำเอาวิธีเหล่านี้ไปใช้ได้เลย อย่าลืมแชร์วิธีการเหล่านี้ไปให้คนใกล้ตัวของคุณด้วยนะคะ จะได้นำความรู้เหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันยังไงหล่ะ