สมุนไพรแก้ปวดเมื่อยมีอะไรบ้าง ถ้าอยากรู้มาดูกันเลย
ในชีวิตประจำวันของเรา จะต้องทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งเรียนหนังสือ ทำงาน เล่นกีฬา ทำอาหาร หรือเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งล้วนแต่ทำให้ร่างกายของเราเกิดความเจ็บปวดเมื่อยล้าเป็นอย่างมาก ยิ่งคนในวัยทำงานหรือวัยสูงอายุด้วยแล้ว มักจะมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายกันมากเลยหล่ะ แล้วแบบนี้คนสมัยก่อนเค้าจะมีวิธีแก้ปวดเมื่อยกันอย่างไร นอกเหนือจากการนวดแผนโบราณ เราจึงอยากจะมาแนะนำอีกหนึ่งแนวทาง ที่จะช่วยรักษาอาการปวดเมื่อยให้บรรเทาบางเบาลง ด้วยการใช้สมุนไพรแก้ปวดเมื่อยนั่นเอง

มารู้จักสมุนไพรแก้ปวดเมื่อยกันเถอะ
เถาเอ็นอ่อน
เถาเอ็นอ่อนนั้นเป็นไม้เถาชนิดหนึ่ง ที่เลื้อยพาดพันกับต้นไม้อื่น เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง ขึ้นชื่อในเรื่องของการนำไปใช้เป็นสมุนไพรแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ คนโบราณมักใช้เป็นยาช่วยแก้ปวดเมื่อย บำรุงเส้นเอ็น แก้ขัดยอก ใช้ส่วนใบมาโขลกให้ละเอียดแล้วใช้ผ้าห่อทำเป็นลูกประคบ แก้อาการปวดเสียวเส้นเอ็น รักษาอาการเมื่อยขบ ส่วนเถานั้นใช้ต้มกับน้ำ ดื่มแก้ปวดเมื่อย ช่วยบำรุงเส้นเอ็นให้แข็งแรง แต่ควรระวังหากทานในปริมาณมาก อาจไปกระตุ้นหัวใจ ทำให้เกิดอันตรายได้
ไพล
สมุนไพรอีกอย่างที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือไพลนั่นเอง ในภาษาเหนือจะเรียกว่าปูเลย เป็นสมุนไพรอีกอย่างที่คนสมัยก่อนมักจะปลูกไว้ที่บ้าน ดอกไพลใช้กินสดๆ กับยำหน่อไม้ เหง้าไพลมีสรรพคุณช่วยแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เส้นขบ ลดอาการเล็บขบ เส้นตึง ปวดบวม โดยเอาเหง้าไพลสดมาทุบให้แหลก หรือนำมาฝนแล้วใช้ทาถูนวดบริเวณที่มีอาการปวดเมื่อย และสรรพคุณของไพลยังมีอีกหลายอย่าง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : thaicrudedrug
ตะไคร้
นี่เป็นพืชผักอีกอย่างหนึ่งที่เราใช้ปรุงอาหารกันเป็นประจำอยู่แล้ว โดยตะไคร้มีสรรพคุณช่วยแก้ปวดเมื่อยได้ด้วยนะ โดยการเอาต้นตะไคร้มาล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเอาไปตากแดดให้แห้ง จากนั้นก็นำมาคั่วให้หอม เก็บไว้ชงดื่มเป็นน้ำชา จะช่วยแก้ปวดเมื่อย คลายเส้น ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต หรือจะใช้ตะไคร้ทำเป็นลูกประคบ ใช้แก้อาการปวดหลังก็ได้ค่ะ
ใบพลับพลึง
วิธีทำให้เอาใบพลับพลึงมาลนไฟให้ร้อนจนใบนิ่ม รอให้อุ่นๆ แล้วก็เอามาประคบบริเวณที่มีอาการปวดเมื่อย ใช้ประคบคอที่มีอาการปวดจากการตกหมอนได้ สรรพคุณทางยาจะช่วยแก้อาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอกได้ ใบพลับพลึงยังนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการทำลูกประคบสมุนไพรได้อีกด้วย
โด่ไม่รู้ล้ม
เป็นพืชล้มลุกที่ขึ้นตามระดับผิวดิน เป็นสมุนไพรที่ขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่ง ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ช่วยคลายเส้น แก้อาการบวม ช่วยแก้อาการปวดหลังปวดเอวได้ดี ส่วนใหญ่เราจะรู้จักโด่ไม่รู้ล้มในการใช้ดองเหล้าร่วมกับสมุนไพรพื้นบ้านอย่างม้ากระทืบโรงและพญาเสือโคร่ง รากของโด่ไม่รู้ล้มก็สามารถนำมาต้มน้ำดื่มเป็นยาสมุนไพรได้เช่นกัน สรรพคุณอีกหลายอย่างของโด่ไม่รู้ล้ม อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : www.phargarden.com
ดีปลี
สมุนไพรอีกอย่างที่หลายคนคงจะรู้จักกันดีก็คือดีปลีนั่นเอง โดยหนึ่งในสรรพคุณของดีปลีก็คือช่วยแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตามร่างกาย ใบดีปลีช่วยลดอาการปวดเส้น แก้เส้น ผลแก่จัดก็สามารถใช้ปรุงเป็นยาทาภายนอก ช่วยลดอาการอักเสบของกล้ามเนื้อ แก้อาการปวดเมื่อยได้ดี แต่ควรระวังหากทานดีปลีมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการแสบเวลาขับถ่าย หรือทำให้กระเพาะอักเสบ หญิงมีครรภ์ห้ามบริโภคดีปลีเด็ดขาด เพราะอาจทำให้แท้งลูกได้ คนมีไข้ก็ไม่ควรกินเพราะจะทำให้มีอาการร้อนใน
โคคลาน
เป็นไม้เถาที่เลื้อยไปตามพื้นดิน หรือพันขึ้นตามต้นไม้ เป็นสมุนไพรที่มักเกิดขึ้นตามธรรมชาติในป่า สรรพคุณทางยาของโคคลานสามารถช่วยแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย บรรเทาอาการเส้นตึง ปวดตามข้อ ปวดเอว แก้ปวดหลัง รักษาโรคผิวหนัง แก้กษัย บำรุงเลือด ใช้แก่นหรือเถาปรุงเป็นยาสมุนไพร
หญ้าหนวดแมว
ชื่อของหญ้าหนวดแมวคงจะเคยผ่านหูของเพื่อนๆ มาบ้างแล้ว ซึ่งนี่ก็เป็นสมุนไพรแก้ปวดเมื่อยอีกหนึ่งอย่างหนึ่งที่ช่วยแก้ปวดเมื่อย รักษาโรคปวดข้อและไขข้ออักเสบ ช่วยรักษาอาการปวดตามสันหลังและบั้นเอว เป็นยาขับปัสสาวะและช่วยล้างสารพิษในทางเดินปัสสาวะ
แคนา
เราสามารถนำดอกแคนามาประกอบอาหารได้ ไม่ว่าจะลวกจิ้มน้ำพริก หรือนำมาทำแกงส้ม มีสรรพคุณช่วยขับเสมหะ ช่วยในการนอนหลับ ช่วยแก้ปวดเมื่อย ช่วยให้การขับถ่ายสะดวกมากยิ่งขึ้น เมล็ดแคนาช่วยแก้โรคชักและยังใช้เป็นยาแก้ปวดประสาทอีกด้วย
เถาเมื่อย
เมื่อยหรือมะเมื่อยเป็นไม้เถาเนื้อแข็ง ที่มีถิ่นกำเนิดมาจากเนปาล เป็นสมุนไพรแก้ปวดเมื่อย ช่วยให้เส้นเอ็นหย่อน ถ้านำมาต้มรวมกับเถาเอ็นอ่อนแล้วดื่มน้ำยาต้มสมุนไพรที่ได้ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ปวดเมื่อยให้ดีมากยิ่งขึ้น
ว่านสบู่เลือด
สมุนไพรแก้ปวดเมื่อยอีกอย่างคือว่านสบู่เลือด ซึ่งเป็นไม้เลื้อยมีหัวอยู่ในดิน ลำต้นจะงอกออกมาจากหัวในดินนั่นเอง ว่านสบู่เลือดนี้แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ สบู่เลือดตัวผู้ และสบู่เลือดตัวเมีย ซึ่งสบู่เลือดตัวเมียนี้จะเรียกว่าบอระเพ็ดพุงช้าง หรือ กลิ้งกลางดง วิธีที่เราจะแยกแยะนั้นก็ให้เด็ดใบหรือก้านเพื่อดูสีน้ำยาง ถ้าน้ำยางเป็นสีแดงคล้ายเลือดสด นั่นแสดงว่าเป็นว่านสบู่เลือดตัวผู้ค่ะ หัวสบู่เลือดเอาฝานบางๆ แล้วเอาดองเหล้าเติมน้ำผึ้งผสมเข้าไปเล็กน้อย ใช้ดื่มครั้งละ 1 แก้วเล็กก่อนอาหาร 3 มื้อและก่อนนอนเป็นประจำ จะช่วยแก้ปวดเมื่อย บำรุงกำลัง
สมุนไพรแก้ปวดเมื่อยเหล่านี้บางอย่างเราก็รู้จักกันเป็นอย่างดี บางอย่างก็แทบจะไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อนเลย สมุนไพรพื้นบ้านถ้าเรารู้จักนำมาใช้ประโยชน์ และรู้ถึงสรรพคุณที่หลากหลาย ก็จะเป็นประโยชน์กับเรามาก นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่จะช่วยแก้ปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยใช้คุณประโยชน์จากธรรมชาติ หวังว่าเพื่อนๆ ที่ได้อ่านบทความเสร็จแล้ว จะได้รับความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรเพิ่มมากขึ้นนะคะ