หน้าหมองคล้ำทําไงดี เรารวมวิธีแก้หน้าหมองคล้ำ ไว้ที่นี่แล้ว

เพื่อนๆ ชาวทิปส์ซ่าเคยเจอคนหน้าตาดี แต่ดูแล้วเค้าหน้าหมองคล้ำไม่มีสง่าราศีเอาเสียเลย เหตุการณ์นี้อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเราเองก็ได้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง สาเหตุนั้นมีหลายอย่างมากๆ ทั้งการใช้ชีวิต สิ่งแวดล้อม แสงแดด อาหารการกิน สุขภาพ ปัจจัยภายนอก ฯลฯ แล้วหากวันหนึ่งคุณเกิดหน้าหมองคล้ำขึ้นมา แล้วจะทำยังไงดีหล่ะ? หลายคนคงกำลังหาคำตอบให้กับตัวเองอยู่ เพราะชีวิตที่มีใบหน้าที่สวยใสผุดผ่องนั้น ย่อมดีกว่าการมีความหมองคล้ำเข้ามาเยือนเป็นแน่ เคล็ดลับวิธีแก้หน้าหมองคล้ำจึงเป็นสิ่งที่เราจะมอบให้กับเพื่อนๆ ในบทความนี้ หากคุณได้อ่านกันจนจบ รับรองว่าคุณจะได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นอีกอย่างหนึ่ง และมันก็เป็นประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันของเราด้วยนะ

คนที่มีหน้าหมองเศร้า ก็จะพลอยพาให้คนที่อยู่รอบตัวดูไม่สดชื่นไปด้วย บรรยากาศคงจะอึมครึมน่าดู และหากใครหน้าหมองคล้ำจะทำให้ดูด้อยลงไปเลยนะ คนที่เค้าสดชื่น สดใส ผิวขาวเนียนยิ้มเก่ง จะโดดเด่นกว่า ไม่ว่าใครก็อยากให้ตัวเองดูดีกันทั้งนั้นแหล่ะ ถ้าอย่างนั้นเราควรมาดูกันดีกว่า ว่าจะมีวิธีแก้หน้าหมองคล้ำได้อย่าง

ปัญหาหน้าหมองคล้ำ แก้ไขได้ไม่ยาก

 

การพอกหน้าช่วยคุณได้

การดูแลรักษาผิวหน้าที่บอบบาง บางครั้งเพียงแค่การล้างหน้าอาจไม่พอ เพราะในแต่ละวันผิวหน้าของเราต้องออกไปเจอกับมลภาวะต่างๆ มากมาย ฉะนั้นลองมาบำรุงผิวหน้าให้เข้มข้นขึ้นอีกขั้น โดยการพอกหน้าด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ ซึ่งมีหลายวิธีมากๆ คุณสามารถดูได้จากสูตรพอกหน้าขาวที่เราเคยได้แนะนำกันไว้แล้วก่อนหน้านี้ เมื่อทำเป็นประจำผิวหน้าจะดูอิ่มเอิบ ผ่องใสมีชีวิตชีวา

 

 

ทาครีมกันแดดด้วยนะ

แสงแดดเป็นอีกหนึ่งตัวการสำคัญ ที่ทำให้ผิวของเราหมองคล้ำลง ฉะนั้นเวลาคุณออกไปพักเที่ยงในวันทำงาน หรือออกไปเที่ยวในวันหยุด ก็ควรจะทาครีมกันแดดก่อนออกไปในที่โล่งแจ้ง เท่านั้นยังไม่พอ คุณควรจะมีร่มหรือหมวกในกว้างเพื่อเอาไว้ป้องกันแสงแดดด้วยหล่ะ

 

 

พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ

ชีวิตในวัยรุ่นวัยทำงาน มักมีความจำเป็นบางอย่างที่ทำให้เราพักผ่อนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ คุณอาจจะไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนๆ หรือทำงานจนดึกดื่น และทำเป็นประจำจนเคยชิน นี่เองคือสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำ ดูแล้วไม่สดใสเอาซะเอย ดูไร้ชีวิตชีวา ง่วงเหงาหาวนอนตลอด สิวก็จะตามมาและอาจมีขอบตาดำเป็นของแถมด้วย ฉะนั้นคุณควรแบ่งเวลาการใช้ชีวิตให้ดี ใส่ใจเรื่องของการพักผ่อนร่างกายด้วย แม้ใจเราบอกว่ายังไหว แต่ร่างกายของเราควรต้องได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ เพื่อฟื้นฟู ซ่อมแซม และก่อให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพในส่วนต่างๆ ของร่างกายเรานั่นเอง

 

 

ขัดผิวหน้าบ้างก็ดีนะ

การที่เราขัดผิวหน้าของเรา เป็นการขจัดหนังกำพร้าและเหงื่อไคลบนใบหน้าของเราได้อย่างล้ำลึก ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดใต้ผิวหนังเป็นไปด้วยดีอีกฉะนั้นจึงช่วยให้ใบหน้าสดใสไม่หมองคล้ำ ผลิตภัณฑ์สำหรับขัดหน้ามีอยู่หลายแบบ ลองไปหาซื้อตามร้านจำหน่ายเรื่องสำอางค์ดูนะคะ หรือจะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติก็ได้ อย่างการใช้ขมิ้นขัดผิว เอากากกาแฟขัดผิว หรือขัดผิวด้วยมะขามเปียก ก็เป็นอีกทางเลือกที่ทำได้ง่ายและผลลัพธ์ก็ทำให้หลายๆ คนประทับใจกันมาแล้วมากมายจ้า

นวดผิวหน้าด้วยผ้าอุ่น

วิธีนี้เราจะมากระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบนผิวหน้ากันค่ะ โดยการเอาผ้าขนหนู หรือผ้าเช็ดหน้า มาชุบน้ำอุ่นแล้วบิดให้หมาด จากนั้นเอามาประคบบริเวณหน้าของเราให้ทั่ว แล้วนวดผิวหน้าไปด้วย วิธีนี้จะช่วยให้ผิวหน้าของเราผ่อนคลาย ช่วยให้สิ่งตกค้างบนใบหน้า ได้หลุดออกมาอย่างง่ายดายอีกด้วย

 

 

การออกกำลังกายคือเรื่องสำคัญ

อันนี้เป็นวิธีที่เห็นผลไวและชัดเจนสุดๆ คือการออกกำลังกายทุกวันนั่นเอง เพราะจะเป็นการขับเหงื่อไคลออกมา ทำให้เลือดลมสูบฉีดดี และสารพิษต่างๆ ที่ตกค้างอยู่ในร่างกายก็จะถูกขจัดออกมาด้วย ผิวพรรณของเราจะดูเปล่งปลั่ง อิ่มเอิบ ในแบบฉบับของคุณสุขภาพดี และสภาวะทางด้านจิตใจของเราก็จะดีไปด้วย เพราะสมองจะปลอดโปร่ง เป็นคนอารมณ์ดียิ้มง่าย ทำให้มุมมองโดยรวมแล้วเราจะเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส เปล่งประกายความสวยความน่ารักได้อย่างแน่นอน

 

 

หลีกเลี่ยงการสะสมความเครียด

ในชีวิตประจำวันของเราย่อมพบเจอเรื่องราวต่างๆ เข้ามามากมาย บางเรื่องอาจก่อให้เกิดความเครียดกังวลใจ เมื่อเราเจอความเครียดทุกวันก็จะเกิดการสะสม จนเรากลายเป็นคนอมทุกข์ไม่ยิ้มแย้ม อาการจะแสดงออกจากสีหน้า และระบบของร่างกายก็จะได้รับผลกระทบในที่สุด ผิวหน้า ผิวกายไม่ต้องพูดถึง จะหมองคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด คุณจะกลายเป็นคนไร้ชีวิตชีวา ฉะนั้นก็เริ่มต้นด้วยการปล่อยวาง คิดในแง่บวก แล้วความเครียดก็จะไม่สามารถทำร้ายเราได้

 

 

แสงจากจอคอมพิวเตอร์ก็ทำให้ผิวคล้ำ

หนุ่มสาวออฟฟิศส่วนใหญ่จะจ้องอยู่หน้าจอวันละหลายชั่วโมง แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์นอกจจากจะมีผลกระทบต่อดวงตาของเราแล้ว ยังส่งผลต่อผิวของเราด้วยนะ เราจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ ในแต่ละวัน ไม่ต้องถามถึงว่าแสงจากจอจะทำร้ายผิวเราให้หมองคล้ำได้อย่างไร ฉะนั้นเราควรจะนั่งห่างจากหน้าจอ 14 – 24 นิ้ว และตั้งค่าความสว่างของหน้าจอให้เหลือ 0 เพื่อลดผลกระทบจากแสงของจอนั่นเอง

 

 

ดื่มน้ำให้เพียงพอ

เนื่องจากน้ำเป็นปัจจัยที่สำคัญของร่างกายเรา หากร่างกายขาดน้ำจะส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมทั้งหมด ผิวจะแห้งไม่มีชีวิตชีวา ดังนั้นในแต่ละวันเราต้องดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้วขึ้นไป ผิวจะได้ชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง

 

 

ล้างหน้าให้สะอาดทุกวัน

การล้างหน้าในแต่ละวัน คุณควรจะเอาใจใส่ให้มาก ไม่ใช่ล้างเพียงให้ผ่านๆ ไป แต่เราต้องขจัดสิ่งสกปรกต่างๆ บนใบหน้าอย่างหมดจด และนวดเพื่อให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้นด้วย บางคนไปเที่ยวมาดึกๆ แล้วเข้านอนเลย โดยที่ยังไม่ได้ล้างหน้า นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าเกิดสิวขึ้นมา และเกิดความหมองคล้ำในที่สุด

 

 

ทานอาหารที่มีประโยชน์

ในการทานอาหารแต่ละมื้อ ให้ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ต้องงดไปเลย เพราะปัจจัยเหล่านี้ทำให้ร่างกายทรุดโทรม มีแต่ผลเสียต่อร่างกาย คุณจะสังเกตุได้ว่า ระหว่างคนที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำกับคนที่ไม่ดื่ม คนที่ดื่มจะดูหมอง แต่คนที่ออกกำลังกายจะเปล่งปลั่งสดใส

 

 

ว้าว!! คราวนี้เพื่อนๆ คงพอจะทราบแนวทางแก้ไขหากผิวหน้าหมองคล้ำแล้วนะคะ ส่วนตัวที่แอดมินใช้อยู่ทุกวันนี้ คือล้างหน้าด้วยสบู่เบนเนทก้อนสีส้มค่ะ ช่วยขจัดปัญหาสิวและช่วยให้ผิวหน้าขาวใส รู้สึกว่าช่วยให้ล้างหน้าสะอาดมากยิ่งขึ้น (อันนี้ไม่ได้มาโฆษณาให้เค้านะ) และทาครีมพอนด์สทุกคืนก่อนนอน จะช่วยให้ผิวหน้าของเราขาวขึ้นจริงค่ะ นี่เป็นคำแนะนำส่วนหนึ่งที่ทิปส์ซ่าได้นำมาแชร์กัน ทั้งนี้แต่ละวิธีจะได้ผลมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละท่านด้วยนะคะ แต่วิธีเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องพื้นฐาน สามารถนำไปใช้กันได้ทุกคนเลยจ้า