หน้าไหม้แดดทำไงดี เราจะมาบอกวิธีแก้หน้าไหม้แดดให้กับคุณ อ่านที่นี่เลยค่ะ
แสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายผิวหน้าของสาวๆ มานักต่อนักแล้ว ยิ่งคนที่ชอบไปเที่ยวทะเล หรือชอบเดินทางแนวแอดเวนเจอร์ ยิ่งมีโอกาสที่ผิวจะโดนแสงแดดทำร้ายสูงมาก เมื่อผิวหน้าไหม้แดดทำไงดีหล่ะ? นี่แหล่ะคือสิ่งที่เราอยากบอกให้เพื่อนๆ ได้รู้ ว่าวิธีแก้หน้าไหม้แดดนั้นมีให้เราเลือกใช้กันหลายวิธี แล้วแต่ความสะดวกและความพร้อมของแต่ละท่าน แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ไม่เกินความสามารถของเพื่อนๆ แน่นอน เพราะเป็นวิธีง่ายๆ และใช้วัตถุดิบที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นเอง

วิธีแก้หน้าไหม้แดด กับเทคนิคง่ายๆ ที่คุณควรรู้
ทิปส์ : ไม่ว่าเพื่อนๆ จะใช้วิธีไหนในการรักษาผิวหน้าไหม้แดดก็ตาม ก่อนอื่นเลยต้องรีบปรับอุณภูมิของผิวหน้าให้กลับมาเป็นปกติก่อนนะ โดยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นแล้วเอามาประคบให้ทั่วใบหน้า หรือจะเอาผ้าขนหนูไปแช่ไว้ในช่องฟรีซให้เย็น แล้วเอามาประคบผิวหน้าก็ได้เช่นกันค่ะ
รีบเติมน้ำให้กับร่างกาย
น้ำถือเป็นปัจจัยหลักสำหรับการดำรงชีวิตอยู่แล้ว ฉะนั้นเพื่อนๆ จึงควรรีบดื่มน้ำให้ร่างกายสดชื่น และให้ผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดได้ฟื้นตัวนั่นเอง เพราะหากคุณตากแดดนานๆ แล้ว คุณจะสูญเสียความชื้นในร่างกาย การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ดีมาก
อยู่ห่างจากเครื่องสำอางค์สักพัก
ด้วยส่วนผสมต่างๆ มากมายที่อยู่ในเครื่องสำอางค์ หากเราเอามาทาลงบนผิวหน้าของเรา ในขณะที่ผิวหน้ากำลังอ่อนแอและต้องการเวลาพักฟื้น จะยิ่งเป็นการซ้ำเติมผิวไปมากกว่าเดิม ผิวหน้าไหม้แดดที่บอบบางอาจจะแย่ลงมากกว่าเดิม ช่วงนี้แค่รักษาความสะอาดของใบหน้า และรอให้หายก่อน แล้วค่อยแต่งหน้าจะดีกว่าค่ะ อดทนกันนิดนึงนะ
อย่าใช้สบู่หรือโฟมล้างหน้า
หากคุณใช้สบู่ โฟมล้างหน้า หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ก็จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองและอาจจะอักเสบขึ้นมาได้ ฉะนั้นช่วงที่รักษาผิวหน้าไหม้แดดนี้ ให้คุณล้างหน้าด้วยน้ำสะอาดเพียงอย่างเดียวไปก่อน ถ้าเป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงการให้มือสัมผัสโดนผิวหน้า หรือพยายามให้โดนผิวหน้าน้อยที่สุด เพราะผิวหน้าที่บอบบางจะระคายเคืองได้ง่ายมากๆ หากเราไปสัมผัสโดนอาจทำให้ผิวหน้าหายช้าได้
วิธีแก้หน้าไหม้แดดด้วยน้ำนม
นี่คืออีกหนึ่งวิธีในการนำคุณประโยชน์จากนมมาใช้ โดยให้เพื่อนๆ ไปซื้อนมรสจืดมาแช่ให้เย็น แล้วเอามาเทใส่ลงไปบนผ้าขนหนูที่สะอาด จากนั้นเอามาประคบไว้บนผิวหน้าของคุณให้ทั่ว หรือให้คุณนอนหงายแล้วเอาผ้าชุบน้ำนมมาคลุมที่ใบหน้าก็ได้ คลุมทิ้งไว้ 15 – 20 นาที จะช่วยลดความปวดแสบปวดร้อนที่ผิวหน้า และช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูสภาพผิวได้อีกด้วยนะจ๊ะ
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์
เมื่อผิวหน้าไหม้แดด ผิวหนังของเราจะสูญเสียความชุ่มชื้นไป มอยเจอร์ไรเซอร์จึงช่วยเข้าไปเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ซึ่งในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่ม่ส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ ทั้งในรูปแบบของ โลชั่น ขี้ผึ้ง หรือแม้แต่สบู่เหลว เมื่อใช้แล้วผิวจะชุ่มชื้น และช่วยลดการสูญเสียน้ำจากผิวหน้าของเราได้ดี ผิวหน้าที่เสียหายจากแดดไหม้ก็จะได้ฟื้นฟูสภาพค่ะ
ใช้ว่านหางจระเข้ คุณค่าจากธรรมชาติ
นอกจากเราจะใช้ว่านหางจระเข้ทาหน้าแล้ว เรายังสามารถเอามาใช้รักษาหน้าไหม้จากแดดอีกด้วย เพียงแค่เอาว่านหางจรเข้สดๆ มาปอกเปลือกออก แล้วล้างให้สะอาด ล้างยางออกให้หมดด้วยนะคะ จากนั้นให้เอาวุ้นที่ได้มาทาผิวหน้า ตรงบริเวณที่โดนแดดเผาได้เลยจ้า ทาไว้สัก 1 ชั่วโมง แล้วล้างออก ก็จะช่วยลดความแสบร้อน และรักษาผิวที่แห้งเสียได้ กลิ่นว่านหางจระเข้อาจจะแรงนิดนึง อดทนเอาหน่อยนะคะ
ช่วงนี้ให้หลีกเลี่ยงแสงแดดไปก่อน
ช่วงที่เรากำลังรักษาฟื้นฟูสภาพผิวนี้ ให้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดดแรงๆ ไปก่อนนะ ไม่อย่างนั้นคุณจะแสบผิวมากๆ และผิวอาจจะคล้ำเสีย อักเสบ และหายยากอีกด้วย ดังนั้นรักษาผิวให้กลับมาเป็นปกติเสียก่อนนะจ๊ะ
ห้ามเกาผิวหน้าเด็ดขาด
เราเข้าใจนะว่าเวลาที่ผิวหนังที่ไหม้แดด บางครั้งผิวจะลอกออกมาเป็นขุยหรือเป็นแผ่นๆ และมีรู้สึกคันที่ผิวมากๆ ให้คุณอดทนให้มาก แม้จะคันมากขนาดไหนก็อย่าได้เกาหรือเอามือไปสัมผัสเด็ดขาด เพราะอาจเกิดแผลและติดเชื้อ ถ้าคุณเอาแล้วเกิดแผลอักเสบ คราวนี้หล่ะเรื่องใหญ่แน่ๆ เพราะต้องทำการรักษานาน และอาจถึงขั้นมีแผลเป็นเลยทีเดียว ฉะนั้นแม้จะคันมากขนาดไหน ก็ห้ามเกาค่ะ
รักษาผิวที่ไหม้จากแดดด้วยแตงกวา
นอกจากเราจะบำรุงผิวหน้าให้เนียนนุ่มด้วยแตงกวาแล้ว เรายังสามารถใช้ความเย็นจากแตงกวามาช่วยรักษาผิวหน้าไหม้แดดได้อีกด้วย โดยการเอาแตงกวาสดๆ มาล้างให้สะอาด แล้วฝานเป็นแผ่นบางๆ จากนั้นเอาไปวางไว้บนผิวหน้าที่มีปัญหา วิตามินต่างๆ ที่อยู่ในแตงกวาจะช่วยรักษาฟื้นฟูให้ผิวหน้ากลับคืนสู่สภาพปกติ ความเย็นจากแตงกวายังจะช่วยลดความแสบของผิวที่ไหม้แดดได้อีกด้วย
ใช้มะเขือเทศก็ได้นะจ๊ะ
วิธีนี้เราก็ทำเหมือนกับการใช้แตงกวาเลยค่ะ ซื้อมะเขือเทศสดๆ มา แล้วเอามาล้างให้สะอาด หั่นเป็นแผ่นบางๆ แล้วเอาวางไว้ให้ทั่วบริเวณผิวหน้า ด้วยความเย็น สารอาหาร และวิตามินต่างๆ ที่มีอยู่ จะช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูสภาพผิวได้เป็นอย่างดี นับว่าเป็นคุณประโยชน์จากธรรมชาติที่มีคุณค่ามากๆ
ทาผิวหน้าด้วยโยเกิร์ต
เราเคยได้แนะนำให้เพื่อนๆ เกี่ยวกับการใช้โยเกิร์ตพอกหน้ามาแล้วครั้งนึง วันนี้เรายังสามารถเอามาใช้รักษาผิวหน้าไหม้แดดได้อีกด้วย โดยให้เอาโยเกิร์ตรสธรรมชาติมามาแช่ให้เย็น จากนั้นก็เอามาทาให้ทั่วผิวหน้า พอกทิ้งเอาไว้สักประมาณ 20 นาที เพื่อให้คุณประโยชน์จากโยเกิร์ตได้ช่วยบำรุงรักษาผิว แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด วิธีนี้ก็ช่วยรักษาผิวหน้าไหม้จากแดดได้เช่นกัน
ลดอาการแสบร้อนผิวด้วยถุงชา
ใครที่ชอบดื่มน้ำชาอยู่เป็นประจำทุกวัน ย่อมมีถุงชาเก่าอยู่ที่บ้านเยอะเลย อย่าเพิ่งทิ้ง เราสามารถเอามาใช้บรรเทาอาการแสบร้อนจากผิวหน้าที่ไหม้แดดได้ โดยเอาถุงชาเก่ามาแช่ในน้ำเย็น แล้วเอามาวางไว้บนใบหน้าจุดที่แสบร้อน สูตรนี้จะช่วยลดอาการแสบร้อนผิวให้กับคุณได้ ลองทำดูสิง่ายมากๆ เลย
ซ่อมแซมผิวด้วยน้ำผึ้ง
น้ำผึ้งเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากๆ ประโยชน์ของน้ำผึ้งมีเยอะและได้ถูกนำมาใช้กันตั้งแต่สมัยโบราณ และเราก็เอามาใช้กับผิวหน้าเราได้ โดยเอาน้ำผึ้งมาทาไว้บนผิวหน้าที่ถูกทำลายจากแดด แล้วทิ้งไว้ 15 นาที ค่อยล้างออก น้ำผึ้งจะเข้าไปช่วยซ่อมแซมผิวหนังที่เสียหายจากการไหม้ของแดด ผิวจะฟื้นฟูสภาพและกลับมาสู่สภาพปกติในเร็ววัน
ถนอมผิวด้วยน้ำมันมะพร้าว
เราสามารถใช้ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวในการดูแลผิวได้ ซึ่งคนสมัยก่อนนิยมใช้กันมาก และหากคุณออกแดดจ้าแล้วมีปัญหาแสบผิว ผิวหน้าโดนแดดแผดเผา ให้คุณล้างหน้าให้สะอาด เช็ดให้แห้ง แล้วเอาสำลีชุบน้ำมันมะพร้าวแล้วเอามาเช็ดเบาๆ จนทั่วผิวหน้า ทิ้งไว้ 20 – 30 นาที แล้วล้างออก จะเป็นการช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่หมองคล้ำจากแสงแดดได้ และช่วยคงความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย
ปัญหาผิวหน้าไหม้แดดเป็นอีกหนึ่งอันตรายที่เกิดจากแสงแดดอันร้อนระอุ บางคนถึงขั้นเป็นมะเร็งผิวหนังเลยก็มี ฉะนั้นไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราเลยนะคะ เพราะแสงแดดอยู่รอบๆ ตัวเรา หากเีรารับแสงแดดในช่วงที่เหมาะสม ในปริมาณที่เหมาะสมก็เป็นประโยชน์กับเรา แต่หากไปยืนตากแดดร้อนๆ ช่วงเที่ยงถึงบ่าย รับรองว่าผิวคล้ำ แสบผิว และเกิดผิวไหม้จากแสงแดดแน่นอน ฉะนั้นควรป้องกันตัวเองหากจะออกไปสู่ที่โล่งแจ้งที่แดดจัดด้วยนะคะ ทาครีมกันแดด สวมเสื้อผ้าที่คลุมมิดชิด สวมหมวกให้ปิดบังใบหน้าเพื่อป้องกันแสงแดดด้วย เท่านี้ก็จะช่วยป้องกันภัยจากแสงแดดที่มีต่อผิวได้ส่วนหนึ่งแล้วหล่ะค่ะ