เมล็ดเจีย เมล็ดเชียคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร มารู้จักเมล็ดเจียกันเถอะ
เพื่อนๆ รู้จักเมล็ดเจียกันมั๊ยคะ บางคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกันสักเท่าไหร่ เพราะผู้เขียนก็เพิ่งจะมารู้จักกับเมล็ดเจียเมื่อไม่นานมานี้เองเหมือนกัน ซึ่งได้ยินมาว่าเมล็ดเจียมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง บทความนี้เราจะมาแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกับเมล็ดเจียมากยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากมีหลายคนที่ไปเจอเค้าขายตามตลาดหรือร้านค้าบางแห่ง แล้วยังไม่มั่นใจหรือยังไม่ทราบรายละเอียดและสรรพคุณมากนัก คราวนี้คุณจะได้รู้มากยิ่งขึ้น ว่าสามารถนำเมล็ดเจียมาทำอะไรได้ มีประโยชน์ต่อสุขภาพของเราในด้านใดบ้างนั่นเอง

มารู้จักกับเมล็ดเจียกันเถอะ
เมล็ดเจียคืออะไร?
เมล็ดเจีย หรือ เมล็ดเชีย (Chia Seed) นั้นเป็นธัญพืชเม็ดเล็กๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับเม็ดแมงลักมาก ตอนเอาไปแช่น้ำก็ยังพองตัวเหมือนกันอีก แต่เมล็ดเจียกับเม็ดแมงลักมันเป็นพืชคนละชนิกันเลยนะคะ สังเกตง่ายๆ คือเวลาเอาเมล็ดเจียไปแช่ในน้ำเปล่า มันจะพองตัวออกใสๆ แต่หากเป็นเม็ดแมงลักมันจะพองตัวแบบสีขาวขุ่นมากกว่า และอีกอย่างเมล็ดเจียก่อนแช่น้ำจะเป็นเมล็ดสีออกน้ำตาลเทา ส่วนเม็ดแมงลักจะเป็นสีดำเข้มเลยค่ะ
เมล็ดเจียมาจากไหน?
มีการค้นพบทางโบราณคดีเกี่ยวกับเมล็ดเจีย ว่าเป็๋นพืชที่มีมาอย่างยาวนานถึง 3,500 ปีก่อคริสตกาลเลยทีเดียว ชาวมายันและชาวแอซเท็กได้มีการนำมารับประทานเหมือนกับธัญพืชทั่วๆ ไปเลยหล่ะ อีกทั้งยังมีความเชื่อว่าเมล็ดเจียสามารถช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงได้ โดยจะเอามาบดรวมกับแป้ง และทำการคั้นน้ำมันจากเมล็ดเจียออกมาดื่ม ครั้งหนึ่งในอดีตเมล็ดเจียเกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว เพราะสมัยการล่าอาณานิคมของสเปน ซึ่งได้อเมริกาใต้มาเป็นเมืองขึ้น และผู้นำของสเปนได้มีคำสั่งห้ามปลูกเมล็ดเจีย ทำให้จำนวนของเมล็ดเจียลดน้อยลงไปเรื่อยๆ แต่ต่อมานักวิทยาศาสตร์ของอเมริกาสมัยใหม่ได้ค้นพบเมล็ดเจียอีกครั้ง ทำให้มีการวิจัยเพราะปลูกและแพร่ขยายพันธุ์เมล็ดเจียจนมาถึงปัจจุบัน
ภาพจาก : th.wikipedia.org
ต้นของเมล็ดเจีย
สำหรับเมล็ดเจียที่เราใช้กินกันนี้ ได้มาจากต้นซัลเวีย ฮิสปานิกา (Salvia Hispanica) เป็นต้นไม้ที่มีลำต้นสูงประมาณ 4 – 6 ฟุต เป็นพืชที่เติบโตได้ดีในพื้นที่อากาศหนาวเย็น เป็นพืชที่นิยมปลูกกันแถบทวีปอเมริกา เช่า ประเทศเม็กซิโก อาเจนตินา สหรัฐอเมริกา โบลิเวีย เอกวาดอร์ เป็นต้น และยังมีการปลูกในบางพื้นที่ของออสเตรเลีย ประเทศไทยของเราก็มีปลุกกันตามจังหวัดกาญจนบุรี และลำปางค่ะ เมล็ดเจียจะทำการเก็บเกี่ยวมาจากดอกของต้นต้นซัลเวีย ฮิสปานิกา ที่รอจนแห้งแล้ว ซึ่งต้นและดอกก็เป็นอย่างที่เห็นในภาพด้านบนนี้เลยค่ะ
คุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดเจีย
ในเมล็ดเชียหรือเมล็ดเจียนี้ มีโอเมก้า – 3 โอเมก้า -6 ไฟเบอร์ แคลเซียม คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งโดยปกติเวลาทานจะเอาไปแช่ในน้ำนม น้ำผลไม้ ซึ่งคุณค่าทางสารอาหารก็จะเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย เมล็ดเจีย 2 ช้อนโต๊ะสามารถให้พลังงาน 139 แคลอรี่ และแน่นอนว่าเมื่อแช่เมล็ดเจียไว้ ขนาดจะสามารถใหญ่มาขึ้นถึง 12 เท่าเลยเชียวหล่ะ
ประโยชน์ของเมล็ดเจีย
ช่วยให้ความจำดีขึ้น
ด้วยเมล็ดเจียมีโอเมก้า -3 มากกว่าปลาแซลมอน 9 เท่า กระบวนการเรียนรู้ สมอง และประสาทจึงทำงานได้ดี ทำให้ความจำและสมาธิแน่วแน่ดียึ่งขึ้น
แผลหายเร็ว บรรเทาอาการอักเสบ
กรดไขมันโอเมก้า-3 ที่มีอยู่ในเมล็ดเจียนั้น ร่างกายของเราจะเปลี่ยนให้เป็นสารโพรสตาแกลนดิน ซึ่งจะช่วยแก้อักเสบ อาการเจ็บปวดจึงบรรเทาลง แผลจะไม่เรื้อรังและหายเร็วขึ้น และมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้บาดแผลเกิดการติดเชื้อได้อีกด้วย
ช่วยให้หัวใจแข็งแรง
ด้วยโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ที่มีอยู่เยอะในเมล็ดเจีย จะช่วยลดรัดับคอเลสเตอรอล ช่วยปรับให้ระบบการไหลเวียนโลหิตในร่างกายเกิดความสมดุล โลหิตดีไหลเข้าสู่หัวใจจึงเป็นการช่วยให้หัวใจแข็งเราแข็งแรงมากขึ้น
ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
แร่ธาตุอย่าง ฟอสฟอรัส โปรตีน แคลเซียม และแมกนีเซียม มีความสำคัญต่อกระบวนการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ซึ่งในเมล็ดเจียมีแร่ธาตุเหล่านี้อยู่เป็นจำนวนมาก ฉะนั้นเมล็ดเจียจึงช่วยป้องกันภาวะกระดูกบางและช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนได้ค่ะ
กระบวนการซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอมีประสิทธิภาพ
ด้วยคุณประโยชน์จากโปรตีนและฟอสฟอรัสที่มีอยู่ในเมล็ดเจีย ซึ่งจะไปช่วยบำรุงเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ และดูดซึมไปใช้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอนั่นเอง
ดีต่อระบบย่อยอาหาร
ด้วยปริมาณไฟเบอร์ที่มีอยู่มากในเมล็ดเจีย ทำให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานได้อย่างเป็นปกติ ป้องกันอาการท้องผูก ทำให้พุงไม่ป่องค่ะ
ระบบเผาผลานพลังงานดีขึ้น
การทานเมล็ดเจียจะช่วยปรับระบบการเผาผลาญพลังงานของร่างกายให้มีความสมดุล เนื่องจากมีกรดไขมันโอเมก้า-3 โปรตีน และไฟเบอร์สูง
ช่วยแก้ท้องผูก
ด้วยไฟเบอร์ชนิดที่ช่วยล้างสารพิษในเมล็ดเชียมีสูง เมื่อเราทานเข้าไปก็จะช่วยดูดซึมสารพิษที่ตกค้างอยู่บริเวณลำไส้ ให้ขับถ่ายเป็นของเสียออกมา และที่สำคัญผู้เขียนลองทานมาแล้วเมล็ดเชียช่วยแก้ท้องผูกได้ดีมาก เคยใช้สูตรแก้ท้องผูกมาหลายอย่างซึ่งได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง แต่เมล็ดเชียนี่ทานครั้งแรกก็เห็นผลเลยค่ะ
มีผลดีทางด้านอารมณ์
เนื่องจากในเมล็ดเจียนั้นมีกรดอะมิโนทริปโตเฟน ช่วยบรรเทาความกังวล ลดความเครียด ทำให้ร่าเริงอารมณ์ดี จิตใจสงบยิ่งขึ้น ช่วยต้านอาการซึมเศร้า ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการนอนหลับอย่างเป็นธรรมชาติ และยังช่วยคุมความอยากอาหารได้ส่วนหนึ่งด้วย
มีส่วนช่วยด้านผิวพรรณความงาม
สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุในเมล็ดเจียนั้นมีอยู่เยอะ มีส่วนช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งดูอ่อนวัย ลดปัญหาเรื่องสิว ผมนุ่มสวย ช่วยให้เล็บมีสุขภาพดี
ย่อยง่ายแคลอรี่ต่ำ
การกินเมล็ดเจียจะไม่ทำให้เกิดไขมันสะสมในร่างกาย สามารถย่อยง่าย มีแคลอรี่ต่ำ กินแล้วอิ่มท้องแบบสบายๆ ไม่ทำให้อ้วน
*คำเตือนเกี่ยวกับการบริโภคเมล็ดเจีย
แม้ว่าเมล็ดเจียนั้นจะมีประโยชน์มากมาย แต่อย่างที่บอกคืแเหรียญย่อมมี 2 ด้านเสมอ จะให้ดีไปเสียหมดก็คงไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่าทุกคนที่กินแล้วจะดีไปซะหมด มาดูข้อห้ามและข้อควรระวังในบริโภคเมล็ดเจียกันดีกว่า
- ผู้ชายที่มีปัญหาเรื่องต่อมลูกหมากควรงดทาน เพราะมีผลวิจัยว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัวแอลฟา ลิโนเลอิก ที่มีอยู่ในเมล็ดเจียนั้น จะไปกระตุ้นทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก *แต่ในบางงานวิจัยก็พบว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เรื่องนี้จึงต้องทำการศึกษาวิจัยกันต่อไป แต่อย่างไรก็ดีคุณผู้ชายที่มีปัญหาเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก ควรจะหลีกเลี่ยงการบริโภคเมล็ดเจียไปก่อน จนกว่าจะได้ผลวิจัยที่มีข้อสรุปชัดเจนนะคะ
- คนที่มีประวัติการใช้ยาแอสไพริน หรือต้องเข้ารับการศัลยกรรม ให้งดกินเมล็ดเจีย เพราะจะส่งผลทำให้หลอดเลือดบางลง อาจเกิดภาวะเลือดแข็งตัวช้า และทำให้เลือดไหลไม่หยุดได้
- หญิงมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตรควรงดทาน เพราะหากทานเมล็ดเจียจะมีผลต่อสารอาหารในน้ำนม ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
- ไม่ควรทานร่วมกับอาหารเสริมวิตามินบี 17 ติดต่อกันนานๆ เพราะร่างกายจะเกิดการสะสมของสารไฟโตนิวเทรียนท์เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะกลายเป็นสารพิษก่อมะเร็งได้
- คนเป็นโรคความดันโลหิตต่ำควรงด เพราะการทานเมล็ดเจียจะส่งผลต่อแรงดันเลือดขณะที่หัวใจคลายตัวให้ต่ำลง ซึ่งอาจทำให้ช็อกหรือหมดสติได้ค่ะ
- คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่ควรทานเมล็ดเจีย
- ควรเว้นช่วงบ้าง เราไม่ควรทานเมล็ดเจียเป็นประจำติดต่อกันเป็นระยะเวลาหลายปี ควรจะเว้นช่วงในการทานบ้าง
เราจะทานเมล็ดเจียได้อย่างไรบ้าง?
ผสมในเครื่องดื่ม
เพื่อนๆ อาจจะเอาน้ำเต้าหู้ น้ำผลไม้ น้ำเปล่า น้ำชา กาแฟ นมสด มาผสมกับเมล็ดเจีย โดยการเอาเครื่องดื่มเหล่านี้มา 1 แก้ว ต่อเมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ แล้วปล่อยไว้ให้เมล็ดเจียพองตัวขึ้นมา จากนั้นก็ใช้ดื่มได้เลย ซึ่งเมื่อดื่มแล้วเราจะรู้สึกอิ่ม ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก
ทานแบบเมล็ดแห้งเลย
วิธีการทานก็ให้เอาเมล็ดเจียโรยลงไปบนอาหารที่เราจะกินเลยค่ะ แล้วก็กินได้เลย แต่อย่าใส่ลงไปมากนะ เดี๋ยวกินเยอะๆ แล้วจะทำให้ท้องอืดได้ และหากทานเมล็ดเจียแบบแห้งนี้ ควรจะดื่มน้ำให้มากด้วยนะ
ผสมกับโยเกิร์ต
ก่อนอื่นให้เอาเมล็ดเจียมาแช่น้ำให้พองตัวก่อน เมื่อพองตัวเต็มที่เราก็รินน้ำออก แล้วเอาเมล็ดเจียที่ได้ไปผสมกับโยเกิร์ตแล้วใช้ทานได้เลยค่ะ
ใช้โรยไอศครีม
เพื่อนๆ สามารถทานเมล็ดเจียได้โดยการเอามาโรยลงไปบนไอศครีม ผสมในซีเรียลอาหารเช้า หรือผสมในของหวาน
เนื่องจากเมล็ดเจียมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำเอาไว้ เมื่อทานเข้าไปจะเกิดการขยายตัวทำให้รู้สึกอิ่ม ช่วยลดความอยากอาหารได้ ทำให้มีคนจำนวนมากทานเพื่อหวังผลในการลดน้ำหนัก ซึ่งเป็นตัวช่วยป้องกันการกินจุบจิบได้ดี ยังไงก็ลองหาซื้อมาทานกันดูนะคะ เดี๋ยวนี้เมล็ดเจียมีจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย ตามตลาด ตลาดนัด เว็บไซต์ที่จัดจำหน่าย ห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าบางแห่งก็มีจำหน่ายกันแล้วนะ แต่อีกอย่างที่อยากแนะนำคือไม่ควรทานแต่เมล็ดเจียเพียงอย่างเดียว ให้ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ด้วย เพื่อที่ร่างกายของเราจะได้รับสารอาหารครบ เพราะหากจะทานแต่เมล็ดเจียเพื่อหวังให้อิ่มท้องแล้วไม่ทานอาหารอย่างอื่น โรคขาดสารอาหารอาจจะมาเยือนคุณก็เป็นได้ เอาเป็นว่าทานแบบพอดีๆ กันนะคะ